กู้บ้านไม่ผ่านเพราะอะไร? รวมสาเหตุ + วิธีแก้แบบเข้าใจง่าย

กู้บ้านไม่ผ่านเพราะอะไร? รวมสาเหตุ + วิธีแก้แบบเข้าใจง่าย

หลายคนตั้งใจจะซื้อบ้าน กู้ธนาคารเรียบร้อยแต่กลับเจอปัญหา "กู้ไม่ผ่าน" ทำให้แผนซื้อบ้านต้องล่มกลางคัน 💔 ซึ่งจริง ๆ แล้วปัญหานี้เกิดขึ้นได้บ่อยมาก และมักมาจากสาเหตุที่แก้ได้

บทความนี้ Smile Bangkok จะพาคุณรู้จัก สาเหตุยอดฮิตที่ทำให้กู้ไม่ผ่าน พร้อม วิธีเตรียมตัวให้กู้ผ่านแน่นอน ได้บ้านแน่ ไม่สะดุด!

❌ 5 สาเหตุหลักที่ทำให้กู้ไม่ผ่าน

1. รายได้ไม่พอ ผ่อนเกินกำลัง

• ธนาคารจะพิจารณา “รายได้สุทธิ” เทียบกับยอดผ่อนบ้าน
• ปกติจะให้ผ่อนได้ไม่เกิน 40–50% ของรายได้สุทธิ

🔧 วิธีแก้:

• ลดหนี้อื่น เช่น ผ่อนรถ บัตรเครดิต
• กู้ร่วมกับคนในครอบครัว เช่น คู่สมรส พ่อแม่
• เลือกบ้านราคาพอเหมาะกับรายได้

2. มีภาระหนี้เยอะเกินไป (หนี้สินล้น)

• มีหนี้บัตรเครดิต ผ่อนสินเชื่อ หรือรูดเต็มวงเงินบ่อย

🔧 วิธีแก้:

• เคลียร์หนี้ก่อนยื่นกู้
• ขอ Statement ที่แสดงความสามารถในการชำระหนี้ได้ดี
• ใช้เวลา 3–6 เดือนปรับเครดิตก่อนยื่นใหม่

3. เครดิตบูโรมีปัญหา

• ประวัติค้างชำระ หรือจ่ายช้า
• บางคนเคยติดแบล็กลิสต์

🔧 วิธีแก้:

• ตรวจเครดิตบูโรล่วงหน้าผ่านแอป/เว็บ เช่น NDID, K-Credit
• ถ้าเคยค้าง ให้เคลียร์หนี้และรอเครดิตฟื้น (ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน – 1 ปี)

4. อาชีพไม่มีเอกสารยืนยันรายได้ชัดเจน

• ฟรีแลนซ์, แม่ค้าออนไลน์, รับเงินสด ไม่มีสลิป

🔧 วิธีแก้:

• เปิดบัญชีเดินรายรับสม่ำเสมออย่างน้อย 6 เดือน
• ทำหนังสือรับรองรายได้ หรือรายงานภาษีประจำปี
• บางธนาคารมีสินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระโดยเฉพาะ

5. ยื่นเอกสารไม่ครบหรือไม่ถูกต้อง

• ส่งเอกสารช้า ไม่ตรงตามที่ธนาคารต้องการ

🔧 วิธีแก้:

• เตรียมเอกสารให้ครบ เช่น สำเนาบัตร, สลิปเงินเดือน, สเตทเมนต์ย้อนหลัง 6 เดือน
• ให้ “นายหน้าอสังหา” ช่วยประสานกับแบงก์ จะลดข้อผิดพลาดได้มาก

📌 เคล็ดลับให้กู้ผ่านตั้งแต่รอบแรก

✅ ตรวจเครดิตบูโรล่วงหน้า
✅ จัดการหนี้ก่อนยื่น
✅ เตรียมเอกสารทุกอย่างให้ครบ
✅ ถ้ามีปัญหาเรื่องรายได้ → กู้ร่วมได้
✅ ใช้ที่ปรึกษาหรือพนักงานขายช่วยยื่นเอกสาร

✨ สรุป

การกู้บ้านไม่ผ่านไม่ใช่จุดจบ
แค่คุณรู้ว่า “พลาดตรงไหน” และ “แก้ยังไง” ก็กลับมายื่นใหม่ได้ และมีโอกาสผ่านแน่นอน

หากคุณกำลังมองหาบ้านหรือคอนโดที่เหมาะกับงบและมีทีมช่วยประสานธนาคารให้
เข้าไปดูบ้านได้ที่ 👉 www.smilebangkok.com